หนูนาเดินกลับมาจากตลาดเช้า มือหนึ่งถือถุงผัก อีกมือยกขึ้นเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก ดวงอาทิตย์ยังไม่แรงนัก แต่ใจของเธอกลับร้อนระอุยิ่งกว่าท้องถนนยามเที่ยงวัน
เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ดังจากลานหน้าวัด ทำให้เธอชะงักมองไป…แล้วเธอก็เห็น "แววตาแบบนั้น" อีกครั้ง — แววตาของใครบางคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจออีก
เขายืนอยู่ตรงนั้น — ณภัทร — ในชุดเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์ธรรมดา แต่รอยยิ้มของเขากลับไม่ธรรมดาเลยสักนิด มันยังเหมือนเดิม...เหมือนเมื่อห้าปีก่อนตอนที่เขาขอเธอเป็นแฟน
“ยังชอบกินข้าวผัดไข่ดาวเหมือนเดิมไหม?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจในคำตอบ
หนูนาเม้มปากแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกทั้งหมดไว้ เธอพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินผ่านเขาไปโดยไม่พูดอะไร
แต่พอพ้นระยะสายตา เธอก็ยืนนิ่งอยู่ข้างต้นโพธิ์ หน้าโรงเรียนประถม ความทรงจำถาโถมใส่เธอราวกับพายุฤดูร้อน…
> เธอจำได้ วันที่เธอร้องไห้ข้างศพแม่
เขายืนอยู่ตรงนั้น จับมือเธอไว้แน่น
บอกว่า “เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
แต่วันถัดมา…เขากลับหายไป
หายไปพร้อมคำลาที่เธอไม่ได้ยิน
บ่ายวันนั้น ณภัทรมาหาที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เธอกับเด็ก ๆ ช่วยกันทำขึ้น ทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ เด็กบางคนถามเบา ๆ ว่า “นั่นพ่อของใครเหรอพี่หนูนา?”
เธอตอบว่า “ไม่ใช่ของใครหรอก แค่คนที่เคยเดินร่วมทางกันเท่านั้น”
เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกว่า “แล้ววันนี้…ฉันขอกลับมาเดินด้วยได้ไหม”
หนูนาเงยหน้ามองเขา ดวงตาของเธอแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็น น้ำเสียงก็สงบจนเกือบเย็นชา
“โลกมันยังหมุนอยู่ทุกวันพี่ณภัทร…แต่หัวใจหนู มันหยุดไปนานแล้วตอนที่พี่หายไป”
เขานิ่งไป ก่อนจะเอ่ยอย่างอ่อนแรง
“แล้วมันเริ่มใหม่ได้ไหม...ถ้าผมไม่หายไปอีก”
> เสียงหัวใจของใครบางคนเต้นเบา ๆ ใต้ลมหายใจที่สั่นไหว
แต่ในวันเดียวกันนั้น หนูนาเดินไปเปิดกล่องจดหมายหน้าบ้าน...
จดหมายสมัครเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กในโครงการทุนที่เธอเคยสัญญาว่าจะดูแลพวกเขา
คือคำตอบของเธอ
“หัวใจหนูยังมีไว้ให้คนที่รอคอยมันอย่างอดทนค่ะ…ไม่ใช่คนที่เดินหายไป แล้วค่อยกลับมาตอนที่ทุกอย่างเริ่มดี”
ณภัทรยิ้มจาง ๆ เขาไม่ได้ขอโทษ ไม่ได้อ้อนวอน แต่ก็ไม่ได้เดินจากไป เขาแค่นั่งเงียบ ๆ ข้างร้าน เหมือนรออะไรบางอย่าง…
บางอย่างที่อาจไม่มีวันมาถึง
หรือบางอย่างที่เธอกำลังจะตัดสินใจในบทต่อไป