กลีบดอกไม้สีครามค่อย ๆ แย้มบานท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดลงมาอย่างอ่อนโยน ลี่เหมยยกมือขึ้นแตะแสงนั้นเบา ๆ แสงที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของคำสาปบัดนี้กลับสว่างไสวราวกับอวยพร
เสียงระฆังเบา ๆ จากศาลากลางหมู่บ้านดังขึ้น ผู้คนเริ่มทยอยเดินออกจากบ้านด้วยสีหน้าสงบ ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวอย่างที่เคยเป็น แต่เพราะพวกเขาต้องการ “อยู่ตรงนี้” ในคืนพิเศษที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้ทุกคนเจ็บปวด
เด็ก ๆ วิ่งเล่นในลานกว้างอย่างร่าเริง หญิงชราผู้ขายสมุนไพรนำตะเกียงน้ำมันมาจุดไว้อย่างเงียบงัน ชายชราผู้เฝ้าศาลานำธูปสามดอกปักลงพื้น แล้วยิ้มให้กับท้องฟ้า
ซ่งเหวินเดินเข้ามาช้า ๆ และนั่งลงข้างเธอโดยไม่พูดอะไร
“เจ้าจำได้หรือไม่…เมื่อปีก่อน ข้ารออยู่ที่นี่ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยคำถาม” ลี่เหมยพูดเสียงเบา “แต่คืนนี้ ข้าไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว”
“เพราะเจ้ามีทุกคำตอบอยู่ในหัวใจแล้ว” เขาตอบ
ลี่เหมยยิ้ม ดวงตาเธอสะท้อนแสงจันทร์ ดอกไม้สีครามบานสะพรั่งทั่วลาน เหมือนหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านกำลังหายใจพร้อมกันอีกครั้ง
“แม่คงดีใจ” เธอกระซิบ “เพราะสิ่งที่ท่านปลูกไว้…มันกำลังผลิดอกอีกครั้งในหัวใจของพวกเรา”
เด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเงียบ ๆ พร้อมยื่นดอกไม้สีครามที่เก็บมาจากพื้นให้เธอ ลี่เหมยรับไว้ด้วยรอยยิ้ม
“คุณลี่เหมยคะ ดอกไม้นี้หอมจังเลย เหมือนมันยิ้มให้พวกเราอยู่เลยค่ะ”
คำพูดเด็กน้อยนั้นทำให้เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ใช่ มันกำลังยิ้มอยู่จริง ๆ” เธอตอบ “เพราะคืนนี้…มันไม่ได้บานเพียงเพื่อตอบสนองคำสาป แต่มันบาน…เพราะเราให้อภัยกัน”
สายลมยามค่ำพัดผ่านแผ่วเบา พาเอากลีบดอกไม้ปลิวไหวในอากาศเหมือนสายธารแห่งความหวังที่หลั่งไหลไม่มีวันหมด
และในคืนจันทร์นี้ ไม่มีใครหลบซ่อน ไม่มีใครร้องไห้ ไม่มีใครกล่าวโทษอดีต
มีเพียงความเงียบที่อบอุ่น…และหัวใจของผู้คนที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน