Cherreads

Chapter 2 - 2

"จะไปไหนกันครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถาม เสียงของทหารหนุ่มต่ำมาก เหมือนเสียงเบสของเครื่องเสียงที่มีคลื่นความถี่สั่นสะเทือน ทำให้ใจเต้นตึกตักเหมือนเวลายืนอยู่หน้าลำโพง

 "ไปที่..." อิศรารีบตอบ แต่กลับสะดุด นึกไม่ออกว่าจุดหมายคือที่ใด เพราะทุกทีเขาเป็นคนตามภีรวัส

 ชายหนุ่มหันหน้าไปมองเพื่อน ภีรวัสจึงตอบว่า "ไปแคมป์สนครับ ผมมาทำวิจัยและเขียนสารคดี พอดีมาถึงแม่คง รถหมด เลยลงที่ปากทาง"

 "ขอติดรถคุณทหารไปด้วย ไม่ทราบว่าจะได้ไหมครับ" อิศรายิ้มกว้าง

 "ได้สิครับ เดี๋ยวผมจะไปส่งให้ อีกไม่ไกลครับ ไม่ถึงห้ากิโล"

 "ห้ากิโล" อิศราอุทาน ทำตาโต "นี่ถ้าเดินไปคงตายกันพอดี โชคดีนะครับมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย"

 "ม้าเขียวต่างหาก" ภีรวัสหมั่นใส้เพื่อนรัก อทแทรกไม่ได้

 "ผมชื่ออิศราครับ เป็นช่างภาพ ถือโอกาสมาช่วยเพื่อนเรื่องวิจัยสารคดี" อิศราแนะนำตัว แต่ไม่ยอมแนะนำภีรวัส

 นักวิจัยหนุ่มยืนฟังอิศราอยู่เงียบๆ แต่ในใจด่าและตำหนิเพื่อนว่า...ถูกลากมาสิไม่ว่า แล้ววิจัยสารคดีมีที่ไหน อิศราชอบรวบคำสั้นๆ ทำให้ภาษาวิบัติไม่พอ ยังสร้างความเข้าใจผิดอีก...

 "ผมพันโทวรุตม์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" นายทหารตอบยิ้มๆ แล้วมองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ปีนขึ้นไปนั่งเบาะหลัง

 "ผมภีรวัสครับ" ชายหนุ่มยิ้มบางๆ สบตาอิศราแวบหนึ่ง ระฆังการแข่งขันดังขึ้นอัตโนมัติ เป็นที่เข้าใจดีระหว่างเขากับอิศราว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคือ 'เป้าหมาย' รายใหม่

 "เริ่มได้ สองต่อหนึ่ง" อิศราหันมาพูดเบาๆ กับภีรวัส

 พันโทวรุตม์เลิกคิ้ว ไม่เข้าใจที่อิศราพูด "มาจากกรุงเทพฯ กันหรือครับ"

 "ใช่ครับ เพิ่งมาถึงแม่สอดตอนบ่ายๆ กว่าจะนั่งรถเมล์หวานเย็นถึงแม่สะเรียงก็แทบแย่ ทีนี้รถจากแม่สะเรียงมาเอ่อ..."

 "แม่คง" เสียงหนึ่งแทรกขึ้นจากเบาะหลัง

 "เลยต้องนั่งสองแถวจากแม่สะเรียงมาแม่คน จ้างเขาก็ไม่ยอม บอกว่าต้องวิ่งรับคนตามรายทาง พอถึงปากทางก็เลยต้องลงเดินเข้าตำบลแคมป์สนนี่ล่ะครับ" อิศราอธิบาย หันมาสบตาให้ภีรวัสเมื่อพูดถึงตอนที่บอกทหารหนุ่มว่า 'แค้มป์สน' ดังจะบอกเพื่อนให้รู้ว่า...เห็นไหม เขาบอกชื่อจุดหมายปลายทางได้ถูกต้อง...

 "หมู่บ้านแค้มป์สน ตำบลแม่คง" ภีรวัสแก้ให้ถูก เพื่อนรักของเขาหันหน้ามาถลึงตาใส่ ทำปากขมุบขมิบพูดว่า "ไอ้ภีร์" โดยไม่ออกเสียง

 ...หลายแม่เหลือเกิน อิศราชักจะงง...

 ตอนนี้ภีรวัสรู้แล้วว่าอิศราจะใช้ตัวตนจริงๆ ของตัวเองมาใช้ในกลยุทธ์รอบนี้ นั่นคือภาพลักษณ์สนุกสนานร่าเริง น่ารัก มาล่อหลอกให้เป้าหมายหลงชอบ...

 เพราะฉะนั้น ตัวเขาจะใช้บุคลิกเรียบนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ปกติเขาไม่เคยใช้กลวิธีนี้กับผู้ชายที่อายุมากกว่าท่าทางเงียบขรึมเป็นสุภาพบุรุษ แต่คราวนี้ ลองดูสักครั้ง หากอิศราจะใช้ตัวตนจริงๆ มาเล่มเกมนี้ เขาก็จะใช้ตัวตนจริงๆ ของตัวเองเหมือนกัน จะได้สมน้ำสมเนื้อ ภาพลักษณ์เรียบนิ่ง ขรึมๆ เย็นๆ เขามักจะใช้กับผู้ชายเจ้าชู้ เจ้าสำราญ เพราะผู้ชายประเภทนั้น มักจะชอบอะไรที่ท้าท้าย และ 'ได้ยาก' เขารู้ว่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ เงียบขรึม มักชอบคนที่สดใสร่าเริง เพราะจะทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา

 "ผู้หมวดไปทำอะไรที่แค้มป์สนครับ" อิศราถาม

 ภีรวัสหัวเราะหึๆ ในลำคอ อิศราหันมาถลึงตาใส่อีกครั้ง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลาด เรียกยศทหารผิด

 "ไปคุยเรื่องงานกับผู้ใหญ่บ้านครับ" นายทหารหนุ่มตอบสั้น 

 "เอ่อ...แล้วผู้กองพักอยู่ไกลจากที่นี่หรือเปล่าครับ เผื่อผมกับภีร์จะขอเชิญมาทานอาหารเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยเหลือเรา" อิศราเพิ่มยศให้วรุตม์อีกหนึ่งขั้น ภีรวัสหัวเราะขึ้นมาเบาๆ อีกครั้ง เป็นที่เข้าใจกันดีระหว่างเพื่อนคู่หูว่านี่คือเสียงหัวเราะแบบกระทบกระเทียบ

 "ผมพักอยู่ที่ค่ายเทพสิงห์ในแม่สะเรียงครับ ให้ผมเลี้ยงต้อนรับคุณทั้งสองคนจะดีกว่า ในฐานะเพื่อนใหม่" พันโทวรุตม์หันหน้ามายิ้มให้ภีรวัสที่นั่งกอดอกนิ่งอยู่เบาะหลัง

 "ขอบคุณครับผู้กอง ไม่นึกเลยว่าจะเจอคนใจดีกลางป่ากลางเขาอย่างนี้" อิศรายิ้มกว้างจนตาหยี

 "ยินดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" เจ้าของเสียงห้าวทุ้มลึกกล่าวอย่างอารมณ์ดี

 แวบหนึ่ง ภีรวัสเห็นสายตานายทหารหนุ่มเหลือบมองเขาในกระจกมองหลัง ชายหนุ่มก้มหน้าทำเป็นหลบตา ซ่อนใบหน้าที่กำลังอมยิ้มไว้

 รอบแรก...ภีรวัสบอกตัวเองว่าเขาได้ไปก่อนหนึ่งแต้ม จากสัญชาตญาณ และเรดาร์ประจำตัวที่ทำงานดีมีประสิทธิภาพมาเสมอ เขารู้ได้ทันทีว่าพันตรีวรุตม์ "ปิ๊ง" เขา ไม่ใช่อิศรา

 "ผู้กองครับ แถวนี้มีจุดชมวิวสวยๆ ไหมครับ ผมอยากถ่ายรูปสวยๆ จะได้เอาไปอวดคนกรุงให้เห็นว่าธรรมชาติต่างจังหวัดสวยงามมากแค่ไหน"

 "มีครับ ผมรู้จักจุดชมวิวสวยๆ หลายที่"

 "เดินทางไปลำบากไหมครับ ถ้าเดินเท้าจากแค้มป์สนจะใช้เวลากี่ชั่วโมงครับ" อิศราแกล้งตีหน้าซื่อ

 ...อิศรา ตอแหล อยากจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสิไม่ว่า อย่างอิศรานั่นหรือจะเดินขึ้นเขา ถนัดแต่เดินห้างติดแอร์...

 "เดินไหวหรือ" ภีรวัสอดแทรกไม่ได้

 "ถ้าไม่ไกลนักก็ไหว" อิศราหันมายิ้มให้เพื่อน ทั้งที่กัดฟัน "เดินสองสามกิโลสบายมาก"

 ...เดินขึ้นดอยที่ไหนสองสามกิโลเมตร...ภีรวัสเบ้ปาก

 "ไว้วันเสาร์อาทิตย์ผมว่าง จะพาไปครับ รับรองว่าสวยมากจนคุณทั้งสองคนต้องตาค้าง"

 "จริงนะครับ ขอบคุณผู้กองมากครับ ธรรมชาตินี่มันสวยจริงๆ เฮ้อ...สดชื่น" อิศราดีใจ หันไปมองข้างทาง หลับตาพริ้ม สูดลมหายใจอย่างสดชื่น

 ภีรวัสส่ายหน้า อิศรากำลังเดินหมากตาแรก คิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลเช่นครั้งที่ผ่านๆ มา เขากระแอมเบาๆ สองครั้ง สื่อสารกับเพื่อนสนิทที่มีเพียงเขากับอิศราเท่านั้นที่เข้าใจกันว่า ‘ตอแหล’

 "เป็นอะไรหรือภีร์" อิศราหันหน้ามาเบาะหลัง ยิ้มบางๆ ทำหน้าตาห่วงใย "อะไรติดคอ หรือไม่สบาย บอกแล้วว่าอย่านอนดึก"

 ภีรวัสเหลือบตาขึ้นมอง บอกตัวเองว่ายอมอิศราไปก่อน เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีเมื่อถึงที่พัก

 "ภีร์เขาไม่ค่อยได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติต่างจังหวัดครับ อยู่แต่กับแสงสีกรุงเทพฯ เลยป่วยบ่อยๆ" อิศราหันไปยิ้มอ่อนโยนให้กับวรุตม์

 ...ไอ้ก้อนอิฐ จะมากเกินไปแล้ว แหกกฏหรือไง...

 ภีรวัสเข่นเขี้ยว หรี่ตามองเพื่อนตัวดีที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ข้างคนขับ

 กฏการแข่งขันข้อหนึ่งมีอยู่ว่า จะตอแหลอะไรก็ทำไป แต่ห้ามใส่ร้ายคู่แข่ง

 ...กล้าดียังไง...

 จะว่าไป นายทหารหนุ่มคนนี้นับได้ว่าหน้าตาหล่อเหลาที่สุดในบรรดา 'เป้าหมาย' ทั้งหมดที่ทั้งสองเคยพบมา ท่าทางมีการศึกษา บุคลิก ลักษณะท่าทางดูดีมากกว่าทหารทั่วๆ ไป แม้แต่ผิวพรรรณก็ดูดี ที่สำคัญ 'นามสกุลใหญ่' ยศและชื่อที่ปักอยู่บนหน้าอกประกาศให้เห็นชัดเจน

 ภีรวัสเริ่มตระหนักว่า เกมปั่นหัวให้รักรอบนี้ อิศราท่าทางจะต้องการชนะเป็นอย่างยิ่ง แบบนี้เดิมพันต้องสูง

More Chapters